นี่คือจุดเรื่มต้นของทริปการไปคิวชูด้วยตนเองตอนที่ 1 ครับ ไปยังฟุกุโอกะได้อย่างไร เตรียมพร้อมอ่านกันได้เลย
แต่ทว่าผมยังมี blog ว่าผมเที่ยวอะไรบ้าง วางแผนการเที่ยวอย่างไร อีกด้วยครับ หากเพื่อนๆ อยากไปเที่ยวเหมือนผมบ้าง ก็สามารถเข้าไปดูได้ ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ
เตรียมเหินฟ้า
เ รื่มจากว่า ผมได้จองเครื่องบิน TG648 จากกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) บินตรง 6 ชั่วโมง กว่าๆ ไปยังจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้บินซะตอนประมาณตีหนึ่ง ถือว่ามีเวลาไปนอนเล่น นั่งเล่นใน lounge นานซะเหลือเกิน นั่งง่วงไปสิครับ รออะไร
เกทที่ผมต้องไปขึ้น ก็จะเป็นตัว C2 เนี่ยแหละครับ แต่มีพ่วงตัวอักษร A ด้วย ว้าว!!! มันจะต้องน่าตื่นเต้นแน่ๆ เลย บอกเลยว่าไม่สนุกครับ เพราะว่ามันก็จะไม่ได้จอดที่งวงช้างเหมือนไปเที่ยวเฟี้ยวๆ รวยๆ เหมือนใครเค้า แต่ก็จะต้องไปขึ้นรถเมล์อันเล็กๆ ที่จะภาเราไปหลุมจอดเครื่องบินภายนอกนั่นเอง (ถ้าเพื่อนๆ คิดถึงบางเจ้าที่ดอนเมือง ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันอ่ะครับ อารมณ์เดียวกันเลย แต่อันนี้แค่สายการบินไทย TG)
ส่วนตัวแล้ว ผมก็จะไปขโมยกินอาหารใน lounge ของการบินไทย ซึ่งจะเป็นอันเก่าหน่อย สำหรับพวกที่มีบัตรเครดิต แต่ไม่มีตังไปซื้อ business class กับเค้า ที่เค้าจะมี lounge พิเศษตรงเกท A นะครับ อันนี้บอกไว้ก่อน ว่าก็มีอาหารไม่แพ้กันเลย น่าสนใจมากกว่าเยอะแยะเลยครับ แล้วพวกเบียร์ หรือพวกของมึนเมาก็มีบริการด้วยครับ
แล้วพอนั่งว่างๆ นั้น ทำให้เรารู้สึกเบื่อจนเกินไป ทำให้ต้องไปยัง King Power เพื่อไปเดินเที่ยวเล่น หาของอะไรน่าสนใจ ซื้อติดตัวไปเที่ยวด้วย ก็ได้ไปสะเอะตากับกล้อง Canon รุ่น M50 ครับ แล้วก็ตัดสินใจที่จะซื้อครับ เพราะตัวเองก็อยากที่จะลองเล่นตัวนี้อยู่แล้ว และก็พอดีกับว่าไปเที่ยวและไม่อยากไปซื้อที่นู่นด้วยครับ เผื่อมีปัญหาจะได้เคลียร์กันง่ายๆ หน่อย
แล้วลองเปิดขื้นมา ก็ได้รู้ว่าแบตนั้นหมดครับ อ่าว อดเล่นไปอีก ก็เลยต้องหาที่ชาร์จที่เค้าให้ติดกับกล่องมา เพื่อชาร์จแบตเนี่ยแหละครับ ถ้าเพื่อนๆ อยากได้รีวิวของกล้องตัวนี้ก็สามารถทักมาบอกกันได้นะครับ เผื่อผมจะทำในอนาคตนั่นเอง
ข้ามเรื่องกลับมาอันเดิมครับ พอได้เวลาที่จะขึ้นเครื่อง ก็ไปตรวจอะไรตามปกติครับ แล้วก็พอเดินเข้าไปก็ต้องเดินลงไปยังข้างล่าง ที่มีรถเมล์อยู่ครับ แล้วก็ขึ้นไปอย่างงั้นอ่ะครับ ยืนยาวๆ ไป เพราะมันก็ดูเหมือนกับว่าจะอยู่ไกลตัว terminal ซะหน่อย พอรถเมล์ (ที่ต้องยืนอย่างเดียว) มาจอดข้างๆ เครื่องบินแล้ว ก็ได้เว ลาขึ้นเครื่องครับ ตัวเครื่องก็จะดูเก่าหน่อย ข้างในก็เก่าเช่นกัน พนักงานต้อนรับก็เก่าเช่นกันครับ พูดเลยไม่น่าจะมีอะไรใหม่เท่าไหร่ นอกจากอาหาร 3 ชุดครับ
ในการบินครั้งนี้ คนไทยเยอะอยู่เหมือนกันครับ ณ ขณะนี้ ผมก็ยังสงสัยอยู่ ว่าทำไมคนไปเที่ยวคีวชูเยอะกันจัง งานเทศกา รอะไรก็ไม่มี ส่วนใหญ่ คนที่ขึ้นจะเป็นคนญี่ปุ่นที่เป็นคนทำงานครับ แล้วก็มีพวกคนแถบประเทศอินเดียวด้วย ลักษณะมันบอกจริงๆครับ ว่าไม่ใช่คนไทย
ส่วนอาหาร ทางการบินไทยก็ไม่ได้แพ้ใครครับ โชคร้ายว่าไปโดนอาหารที่เลาวนจ์ไปแล้ว ก็เลยไม่ได้สั่งอะไรเพื่มนะครับ ก็มีพวกนี้ครับ